Chapter 4 วิซ่าสเปน...ยากไหมนะ

Chapter 4
วิซ่าสเปน...ยากไหมนะ 

ตอนนี้ก็เดินทางมาถึงขั้นตอนในการขอวิซ่าสเปนกันเเล้ว ถ้าจะพูดว่าง่ายก็ไม่เชิง เราว่าความยุ่งยากของวิซ่าสเปนคือ "เอกสาร" เอกสารเยอะมากกกกกกกกกก ( ก ล้านตัว )

อันที่มีรูปดอกไม้ 🌼🌼จะเป็นเอกสารที่เราทำเพิ่ม นอกเหนือจากในเว็บที่สถานทูตแจ้งนะคะ

มาดูเอกสารที่มาดูเอกสารที่ใช้ยื่นกันค่ะ

- 📄ใบคำร้องขอวีซ่าซึ่งกรอกข้อมูลทุกอย่างเรียบร้อย 2 ชุด
- 📄หนังสือเดินทางที่มีอายุอย่างน้อย6 เดือน พร้อมสำเนา 1ชุด เซ็นช่อให้เหมือนพาสปรอตนะคะ
- 📄รูปถ่ายสี ที่มีพื้นหลังสีขาว จำนวน 2 รูป สวยไม่ส่วยไม่สำคัญค่ะเพราะเขาไม่ได้เอารูปนี้ไปใส่หน้าวิซ่า ทาง vfs จะเป็นคนถ่ายเอง
- 📄เอกสารประกันการเดินทาง 🚨 ย้ำต้องเป็นบริษัทที่สถานทูตรับรอง ดูได้จากเว็บค่ะ
- 📄เอกสารทางการเงิน(หนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร และ สำเนาสมุดบัญชี) 🚨 ต้องเป็นภาษาอังกฤษ
- 🌼🌼 ถ้ามีพ่อ-แม่เป็นสปอนเซอร์ต้องใช้จองท่านนะค่ะ บอกธนาคารว่าเป็นสปอนเซอร์ให้กับบุคคลที่ขอวีซ่า พูดง่ายคือต้องมีชื่อเราในนั้น
🚨🚨 สรุปเอกสารทางการเงินที่เรายื่นทั้งหมด
1. Dad's bank statement
2. My own bank statement
3. My own bank guarantee
4. Copied of my own book bank.

- 📄สูติบัตร, ใบเปลี่ยนชื่อ , ทะเบียนบ้าน ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
- 📄จดหมายรับรองสภาพนิสิตภาษาอังกฤษ
- 📄ใบจองตั๋วสายการบิน 💡 ทริคคือ ลองจองพวกสายการบินๆเเพงๆก่อน เช่น ของรัสเซีย Aeroflot ของฝรั่งเศส เพราะสายการบินพวกนี้จะสามารถจองก่อนเฉยๆได้ค่ะ มีใบจองตั๋วให้ แต่หากสายการบินราคาย่อมเยาว์พวกนี้มักจะต้องจ่ายเงินเลย พยายามอย่าไปจองเลยจริงๆเพราะคุณเอาแน่เอานอนกับวิซ่าไม่ได้

💡💡 เราจองของ Qatar Airways ค่ะ สาเหตุหลักๆค่ะๆเลยก็นั่งสบาย บินต้อง16ชม. ขอแบบชิลๆล่ะกัน และที่สำคัญหากวิซ่าคุณไม่ผ่าน คืนเงิน 100% ดีงามมากกกกกกกกก

ยื่นตั๋วทุกใบนะคะ เรายื่นไป 4 ใบ ทุกประเทศที่ไป

- 📄ใบจองโรงเเรมเราใช้ booking.com หมดเลย เพราะยังไม่ต้องจ่ายเงินและปรับเปลี่ยนวันได้ ที่สำคัญในใบจองโรงแรมทุกใบต้องมีชื่อคุณ ย้ำต้องมีชื่อ!!! 🚨🚨 พอปริ้นมาก็ตรวจสอบให้ดีนะคะ

ปล. ถึงแม้คุณจะไปพักบ้านเพื่อน แต่เชื่อเถอะมีใบจองโรงแรมจะขอวิซ่าง่ายกว่า เพราะถ้าไปอยู่กับเพื่อนต้องมีจดหมายเชิญ สำเนาวิซ่าหรือบัตรประชาชนของคนที่เชิญด้วยค่ะ

- 📄แผนการเดินทาง (รายละเอียดจะอยู่บท 5 ค่ะ)
- 🌼🌼เอกสารเชิญจากโฮสต์ พร้อมสำเนาวีซ่า
- 🌼🌼เอกสารแสดงที่มาของเงิน
เนื่องจากบัญชีที่เรายื่นไปเป็นเงินฝากก่อนใหญ่ 1XXXXX ตู้มเดียว จึงทำให้สถานทูตอาจสงสัยเราเลยเขียนอธิบายไปว่าทำไมฝากที่เยอะ

- 🌼🌼เอกสารที่บอกว่าพ่อเป็นสปอนเซอร์ให้ค่ะ อย่าลืมให้คุณพ่อเซ็นรับรอง
- 🌼🌼Contact ระหว่างเรากับโฮสต์ว่าเราจะไปอยู่ที่นู่น

ระยะเวลา เรายื่นวันที่ 22 เมษายน ได้รับ 5 พฤษภาคม รวม ประมาณ 8 วัน ไม่นับเสาร์-อาทิตย์. และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Special thanks ขอบคุณพี่ปลาดาวที่ช่วยเขียนจดหมายชี้เเจงที่มาของเงินมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ☺️

Chapter 3 ได้เวลา...ออกตามหาโฮสต์ 🏡

Chapter 3
ได้เวลา...ออกตามหาโฮสต์ 🏡

โฮสต์หรือบุคคลที่จะยอมให้เราไปอยู่ด้วยทั้ง summer นั้นถือเป็นการเดินทางที่ยาวนานและลุ้นมากค่ะ 

โดยเราจะสามารถเลือกประเทศที่ต้องการไปได้สูงสุด 5 ประเทศค่ะ
- สเปน
- เยอรมัน (ต้องมีความรู้พื้นฐานเยอรมันถึงจะไปได้)
- สาธารณรัฐเชค
- แคนาดา
- เบลเยี่ยม

โฮสต์คนแรกที่ติดต่อเรามาคือคนสเปน เป็นกันเองมาก บ้านอยู่บนเกาะ เกือบจะได้ไป แต่สุดท้ายโฮสต์ส่งมาบอกว่าดูวันผิด นึกว่าเราจะไป summer ปีนี้ ในประวัติเราใส่ปี 2017 ไว้เพราะ ตอนแรกคิดว่า summer นี้จะเรียน ปช.

เราก็คิดไปคิดมาว่าจะทนเรียนไหม ค่วิชาเดียว ( เราเก็บ gen-ed ครบเเล้ว เสรีก็เกินแล้ว) แบบนี้ถ้าเราอยู่เรียน summer ก็เท่ากับว่าเรียน ปช. วิชาเดียว บ้าป่ะแกกกกก คือจะเสียค่าครองชีพเล่นๆหรอ? ในเมื่อต้นทุนเสียโอกาส ปช.เยอะเกินไป จึงทำให้เราตัดสินใจไม่เรียนแม่ง

สุดท้ายเราเปลี่ยนวันว่าจะไปปีนี้เเทน

โฮสต์คนที่ 2 เป็นคนอเมริกาแต่อยู่ที่เยอรมัน ทั้ง2ชอบทานอาหารไทย ตึงอยากให้เเราไปอยู่ด้วย แต่ปัญหาคือ ในการขอวิซ่าเยอรมันนั้น ต้องมีความรู้เยอรมันระดับ A1 สุดท้ายก็คงไปไม่ได้

โฮสต์คนที่3เป็นคนสเปน ท่านบอกว่านิสัยเข้ากับที่บ้านเขาได้ ถามระดับภาษาต่างๆของเรา ปล โฮสต์พิมพ์มาประมาณ 600 คำภาษาสเปนหมด! เราเข้าใจนะ . แต่พิมพ์สเปนไม่ไหว verbo conjugación ไม่เเข็งแกร่งเลยพิมพ์ภาษาอังกฤษตอบไป

โฮสต์คนที่4 ของเราเป็นคนสเปนอีกครั้ง เขาบอกชอบโปรไฟล์เรามากกกกก (นี่ไม่ได้อวยตัวเอง แต่มันดีจริงๆนะ อิอิ)โดยถามเรา 3 คำถามหลักๆคือ 1.ประสบการณ์
2.สเปนไกลนะ บินมาได้ไหม
3. ประกันสุขภาพ อีนนี้แอบงงเบาๆ
พอ 2 วันต่อแม่โฮสต์ก็นัดสัมภาษณ์ จำได้เลยว่าวันเสาร์ตอน 4 โมงเย็น
เราว่าโฮสต์คนที่ 4 ของเรามาไกลที่สุด คุยกัน2ครั้งขอ Skype เลยจ้า นิสัยดีมาก ลูกน่ารักทั้ง2คนเลย เขาบอกสัมภาษณ์ทั้ง 4 คนจาก 65 คน อิอิติด 1ใน 4นะ อย่างน้อยก็เหมือนเข้ารอบสุดท้ายนะ สุดท้ายรอผลค่ะ เราค่อนข้างมีความรู้สึกทางบวก(ว่าจะได้)แต่ไม่รู้สิ แอบเผื่อใจนิดนึง เรื่องการเขียน profile แนะนำตัวเองเราอาจแพ้ แต่ถ้าหลุดมาถึงสัมภาษณ์เมื่อไรเนี่ย พี่จะไม่ปล่อย ใช้เวลาสัมภาษณ์ทั้งหมด ~ 40นาที คำถามเเรกคือทำเราถึงเลือกครอบครัวเรา เเถสดค่ะ ยิ้ม จำได้ส่าก่อนนัดสัมภาษณฺเพิ่งอ่านโปรไฟล์เขาไปว่าสิ่งที่เขาคาดหวังคืออะไร พยายามเล่าให้ได้ในทางโลกสวย คำถามต่อมาวันหนึ่งเราจะทำอะไรกับเด็กๆบ้าง มีวิธีทำให้เด็กๆอยากเรียนภาษาอังกฤษอย่างไร

3 วันต่อมา โฮสต์ส่งมาบอกค่ะว่าเขาเลือกเรา จำได้ว่าตอนนั้นใจเต้นแรง มือสั่นด้วย ดีใจมากจริงๆ

ซื้อหนังสือมานาน ในที่สุดก็ได้ใช้แล้วฮับ ☺️

Chapter 2 ทำไมต้องสเปน?

Chapter 2 
ทำไมต้องสเปน? 


สาเหตุหลักๆที่ทำให้เราอยากไปสเปนก็คือ เราเรียนภาษาสเปนค่ะ เรียนมาได้ปีครึ่งแล้ว แต่การเรียนในห้องเรียนมันเหมือนกับเรียน แต่ก็ไม่ได้ใช้ ไม่รู้จะพูดกับใคร หลังจากนั้นก็ลืมไปเนียนๆ ภาษาสเปนเป็นภาษาที่สวยมากในความคิดของเรา เราชอบการรัวลิ้นมันเป็นอะไรที่เรรรรรริ่ดมาก แต่ใครมันจะกล้าไปล่ะ สเปนอยู่ในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นเป็นโซนที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ค่าครองชีพแพง" และมันก็แพงจริงๆ งืออ~ เราเชื่อว่าการไปยุโรปเนี่ยเป็นความฝันของใครหลายคนแต่หากคุณไม่สตรองพอ พูดง่ายๆคือเงินไม่พอจะไปยังไง มันไม่ได้หมายความว่าคุณมาเงินสดเพียงพอแล้วจบนะคะ แต่ statement ทางการเงินคุณต้องสตรองเช่นกัน ปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้เราได้แต่ใฝ่ฝันที่จะไป จนกระทั่งวันหนึ่งเรียนภาษาสเปนเรื่อง imperativo (ประโยคคำสั่ง) แล้วเราไปสะดุดกับประโยคนี้ค่ะ

Si quieres aprender español, ven a estudiar a España.
ถ้าเธออยากเรียนภาษาสเปน ก็ไปประเทศสเปนสิ

เท่านั้นและรู้เรื่องเลย คือต้องไปอ่า ต้องไปอยู่ที่นั่น ไปใช้ภาษา ไปเรียนรู้วัฒนธรรม พอเราตัดสินใจ(อย่างรวดเร็วเสร็จ) เราจึงเริ่มหาโฮสต์เลยค่ะ มีเวลา 2เดือนครึ่ง เราไม่อยากไปอยู่เที่ยวเล่น10 -15แล้วกลับ เปลืองค่าเครื่องบินป่ะแก~ ดังนั้นหาโฮสต์จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ ประหยัดค่าที่พักด้วย เราตัดสินใจบอกพ่อกับแม่วันก่อนที่เราจะสัมภาษณ์กับโอสต์ชาวสเปน ตอนแรกก็แอบทำใจว่าจะไม่ได้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะปาฏิหาริย์ขึ้นได้เสมอแหละ

หลังจากได้โฮสต์แล้ว เราก็ต้องมาศึกษากันเรื่องประเทศสเปน ESPAÑA กันอย่างจริงจัง และวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเราก็คือไปสเปนหนังสือมาอ่านค่ะ การเเบ่งเขตสเปนก็คล้ายๆกับประเทศไทยเรานั่นคือ มีจังหวัดและในจังหวัดก็มีอำเภอยิบย่อยกันไป. ประเทศสเปนแบ่งการปกครองออกเป็น 17 แคว้น กับอีก 2 นคร โดยแต่ละแคว้นก็จะมีจังหวัดยิบย่อยก่อนไปประมาณ 50 จังหวัดค่ะ โดยเมืองที่เราจะไปอยู่มีชื่อว่า Cubas de la Sagra ซึ่งเป็นเมืองในเขตการปกครองของมาดริดค่ะ

เคล็ด(ไม่)ลับกับการเก็บเงิน

เคล็ด(ไม่)ลับกับการเก็บเงิน

มีหลายคนถามเข้ามาว่าไปเที่ยวบ่อย หาเงินมาจากไหน มีวิธีเก็บเงินไปเที่ยวอย่างไร เรามี 3 ขั้น คือ

1. ถอนเงินเดือนละ 1 ครั้ง อย่าถอนยิบย่อยเพราะเราจะไม่รู้ว่าใช้เท่าไรแล้ว

2. เงินเดินห้าง งดกินบุฟเฟต์ งดกาแฟ ( สตาร์ & ทรู) ถ้าอยากจริงเรากินเป็นกระป๋องแทน แบรนด์เนมนี่ห้ามเข้าเลย ไม่งั้นเกิดกิเลิศแน่นอน 

3. ทำงานค่ะ สอนพิเศษ แต่ก็อย่าสอนมากจนลืมเรื่องการเรียนของตัวเอง

อันนี้เป็นวิธีที่เราทำนะ สามารถปรับเปลี่ยนได้ แบบกาแฟเนี่ยเราก็ยังต้องดื่มอาทิตย์ 1-2 แก้วเลย แค่อย่าดืมทุกวัน ไม่งั้นหมดตัว

มีแอปมาแนะนำด้วย ชื่อนี้เลย OhMyCost รู้สึกว่าจะมีแต่ของ iOS นะคะ เป็นแอปที่ช่วยได้เยอะมาก เมื่อก่อนเราจะใช้วิธีเขียนรายจ่ายผ่านสมุดเล็กๆแต่บางวันลืม เลยหยวนๆไป แต่พอมีแอปแล้ว ซื้อปุ๊บใส่ข้อมูลเลยค่ะ

การที่เราจะเก็บเงินได้จริงๆคือต้องมีเป้าหมายเนอะ รู้ว่าจะเก็บไปเพื่ออะไร รู้ว่าควรใช้เท่าไร พบายรมยืนด้วยตัวเองก่อนอย่าไปรบกวนพ่อกับแม่

สุดท้ายเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ

ตัวอย่างการเก็บเงินของไมอามี่ ( ภาพรวม)

- รายรับ8000

- ถอน 8000

- เก็บ 3000 ใช้ 5000

- 1วันใช้เงินประมาณ 150-200 (พยายามไม่เกิน) 

- บางวันซื้อของเข้าร้านอาหาร พยายามเข้าแค่อาทิตย์ล่ะครั้ง แล้วเอาเงินอาทิตย์อื่นมาถูๆเพื่อให้งบไม่เกิน

- สอนพิเศษสัปดาห์ละ 750-1500 

สรุปเดือนหนึ่ง ได้ 4000-5000 บาทค่ะ เเล้วแต่ความขยัน

ตัวอย่างการใช้เงิน ( รายวัน )

วันที่ 6 เมษายน 2559

ข้าวเช้า 35 บาท

น้ำเปล่า 7 บาท

ข้าวกลางวัน 35 บาท

ข้าวเย็น 26 บาท

น้ำแก้ว 15 บาท

กาแฟอินทนิล 45 บาท

รวม 163 บาท

เพียงแค่เท่านี้ก็จะมีเงินเก็บแล้ว 40 นี่บาท นี่ขนาดแอบกินกาแฟไปแก้วนึง

Special Column: 10 Fun Facts about Korea Metro

10 ข้อเกี่ยวกับรถไฟใต้ดินของเกาหลี โดย ไมอาที่สติออบซอ

          เมโตรที่เกาหลีคือดีมากมีหลายสายมาก  มีคนขายของด้วย เจอขายสายลดหุ่น ขาย power bank -.,- ฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ข้อดีของเมโตรที่นี่คือ
🚇1.สถานีทุกสถานีสวย เอิ่มนับได้ไหม ทันมีกระเบื้องทำเป็นลายต่างๆแตกต่างกันไป ดีงามค่ะ
🚇2.ค่ารถน่าจะไม่แพงมั้ง เริ่มต้นจากสถานีปลายทาง 1250 วอน แต่ตอนออกนี่ต่างกัน บางอันก็เสียเพิ่ม บางอัน 0 บาท
🚇3.เก้าอี้มีหลายสีอีอีอี สีชมพูสำหรับคนท้อง สีแดงคนสูงอายุ สีเทาคนธรรมดา สีทองอันนี้ไม่รู้นะทันอยู่แทรกระหว่างสีเทา คิดก่อนนั่งนะทุกคน
🚇4.ข้างในขบวนทีโมเนเตอร์บอกว่าสถานีต่อไปอะไรเป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี และญี่ปุ่น และก็ภาษาจีน ไม่มีไทยอ่ะ เสียใจ แล้วก็มีไฟบอกว่าประตูเปิดฟังไหน หน้าไม่แตกแน่นอนค่ะ 
🚇5.ตอนนั่งในซับเวย์นี่ลุ้นมากเดี๋ยวขึ้นมาข้างบนเดี๋ยวลงมาข้างล่าง วิวข้างบนสวยจริงค่ะ
🚇6.ความอเมซิ่งอีกอย่างนึงของซับเวย์ที่นี่คือมีการแยกขบวนค่ะ โดยสาย G จะแยกเป็น 2 ขบวนตรง โดยสายนึงจะไปที่ Seoul Station อีกสายไปทางฮงเเดหรือสถานี hongkik univ. สถานที่ฮอตฮิตของคนไทยนี่เอง เทคนิคคือต้องถามคนเกาหลี ว่าสายนี้ไปไหน ถ้าผิดก็ต้องเดินไปโบกี้อื่นๆถามเรื่อยๆ
🚇7.เวลานั่งซับเวย์ตอนดึกๆเช่นหลัง11.30 pm จะมีการเปลี่ยนขบวนรถเกิดขึ้น นั่นคือเราต้องลงจากขบวนที่นั่งมาเเล้วรอขบวนต่อไป ไม่ต้องจ่านเงินเพิ่มฮับ บอกไว้เผื่อตกใจ
🚇8.จะมีการสมมนาคุณจากการนั่งซับเวย์คือขึ้นรถเมย์ฟรี ฟินเฟ่อ~ แต่เราไม่แน่ใจว่าทุกสายเปล่านะ จ้อจำกัดคือต้องขึ้นรถเมย์ให้ได้ภายใน 20-30นาที เราคิดว่ามันเหมือนกับการ transfer เลยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
🚇9.แต่ล่ะสถานีตะมีของขายเสมอราคาถูกกว่าร้านข้างบน ต่อได้ด้วย โดยเฉพาะกังนัมเนี่ย เสื้อผ้าเยอะมาก
🚇10.เราว่าเเฟชั่นในซับเวย์เนี่ยเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆเพราะทุกคน ทุกอาชีพ ทุกอายุ ทุกเพศ ต่างก็ใช้ซับเวย์ด้วยกันทั้งนั้น อปป้าเนี่ยแซ่บเยอะจริง อาจุมม่าก็แต่งตัวดี 

 

Fourth trip : South Korea Part 5

Hello everyone! Welcome back to Miami is traveling J

Day 6, 14 Jan 2016

Time: 09.00 a.m. – Midnight

Route: Daehwa station à Bukchon Village à Gwanghwamun Square à Ihwa Mural Village à Gangnam à Hongdae à Mark’s House

Today is actually last day in Korea and I woke up late. At first I thought I will go to SM building and Naranji Market (Fish Market) since I woke up at 9 am so plan had to change. I decided to go to Bukchon Village first, because last time I just walked by but this time I had an hour to walk around this hectically village. Bukchon Village is very big and people actually live here, there also have many restaurant here but what I found really cool is Churros, this shop was crowded. Then I walked to  Gwanghwamun Square. It is a must for me. Last time that I went to Gyeongbukgung Palace, I can see this square and I thought that I will walk back later but then I ran out of time so I came here again. One of the most famous statue at Gwanghwamun Square is a statue of King Sejong the Great. He is the Creator of Hangeul, Korea's alphabet.

Then I went to Ihwa Mural Village. It is very far away from Gwanghwamun Square. It took about 50 minutes. A reason why I need to go there is because I watched running man, Korean variety show, and this place seems very interesting. When I arrived at Ihwa station. I have to walk up on the mountain well the village is located on the mountain. No car or bus so I need to rely on my legs. There are many museums and art galleries such as Marronnier Park, Arko Art Center and The Lock Museum. It was about 4.30 pm when we arrived there so there was not many tourists.

I decided to have dinner at Gangnam. What surprised me is the price is cheaper than Daewha. Ok that’s really good. Not only nice price but also good quality of food that makes me want to go to Gangnam again. I walked around this area for an hour and it is true that Gangnam is a rich area. It full of good food, good restaurants, shopping malls, companies and also people. Many people waited buses outside! What I heard about Gangman is Gangnam subway station is where you can find cheap clothes. This is absolutely true and I strongly recommend especially women to go here. It is like our heaven. Everything that a girl want is here! J

After shopping at Gangnam subway for a while, I had an appointment with Mark at Hongdae. We will have Korean BBQ there wooooo I love BBQ. Mark said that he actually had this BBQ party for CoachSurfing in Seoul every Thursday night! I’m so happy to be a part of this party. I made so many new friend, we talked and shared our experiences and this is what I called fantastic night baby J

Day 7, 15 Jan 2016

Time: 07.00 a.m. – 05.20 p.m. (Local time)

Route: Daehwa station à Incheon International Airport, Korea à Don Mueang International Airport

Last day comes so fast and I don’t want to go back. I woke up at 7 am and my flight depart at 11.30 am. Mark drive me to Daehwa Station and I waited for the bus to Incheon Airport directly. Mark is amazing and I cannot believe that from the first day to the last day, he always helps me and support me and I want to say this word again and again. Thank you Mark J I finally found Thai people woo. At first I thought I may find many of them in Seoul but I didn’t. Maybe it was because I didn’t went to the place that tour group tend to be or I went there different time. I thought it was so great. Sorry to say that but sometimes well actually most of time, it is better to travel in the country that no one knows you so that you can be the real you, express your feelings freely. That’s why. Unfortunately my flight was postponed. So I had stay at the airport one more hour. I didn’t understand why it took more time in traveling back. I was struck in a plane 6 hours. Seriously! But when I came here it took only 4 and half hours. L  And that is why I arrived Bangkok late.

All in all, I want to say that Korea is amazing. I love there and I swear I will go there again for sure but next time it will be 2 weeks.

Enjoy blogging

Xoxo Miami

Fourth trip : South Korea Part 4

Hello everyone! Welcome back to Miami is traveling J

Day 5, 13 Jan 2016

Time: 06.10 a.m. – 11.50 p.m.

Route: Ilsan Subway Station --> Hongkik Univ. Station --> Imjingak Park --> 
Amethyst Center --> The War Memorial of Korea --> N Seoul Tower --> Ginseng Museum --> Deoksugung Palace --> Seoul City Hall --> Seoul Metropolitan Library 
--> Ehwa Univ. Station --> Sinchon Station --> Hongkik Univ. Station --> 
Daehwa station

DMZ tour is today! I woke up at 5.30 am today. Mark sent me to IIsan Subway Station at 6.00 am because I had an appointment with group tour to DMZ. The reason why Mark had to send me to IIsan Subway Station is because this subway can directly go to Hongkik Univ. Station, the meeting point. I arrived there around 6.40 am and I had KFC for breakfast. A car driver for DMZ tour pick me up at 7.00 am. It’s very early. Then he drove to another hotel in order to pick other tourists. There were 12 people including me in the bus. Unfortunately, our guide came and said that we cannot go to DMZ today because situation between North and South Korea. So what the company can provide us is to show the nearest place that we can see North Korea. All the plan has changed. She let us think about 10 minutes if we still want to do this or not. Most of people cancelled it. So there were only 3 people, one couple from US and I. the main reason why I still go with the tour is because I just want to see North Korea. That’s why I spend 87000 won or about 100$ on one day tour. If you asked me is it worth to spend a lot of money like this or not? Well I cannot truly say how I feel. 

 The first place that this tour take us too is Imjingak Park. This is where we can say North Korea easily. One more thing, my guide told me that it will snow today! Let wait and see is it true or not. Imjingak has many statues and monuments, observation deck, small pond and also restaurant. Plus, free wifi hehehe. There is Mangbaeddan ; like a statue, this is where south Korean people show their respect to their families who live in North Korea or who died in Korea War. In my opinion, the highlight of this place is the bridge of freedom. When I saw those ribbons which hung on the wall, it made me feel sad, really sad. It is like the place that all your happiness was destroyed.

Next place is Amethyst Center. Amethyst is beautiful, it really is and my favorite color is purple so I was thinking about buy one but when I saw the price. Well I have to think about it again. This shop is under government, that’s why tour group had to stop at this place.

 Here I come, The War Memorial of Korea. Before I came here to Korea. My friend told me that If you went to DMZ, don’t forget to go to The War Memorial of Korea also and you should visit there after DMZ so that you can truly feel how people in that time feel. I think he was right J The War Memorial of Korea is very big. There are 8 main exhibits at the War Memorial: the Hogukchumo Exhibit, War History Exhibit, June 25th War Exhibit, Overseas Dispatched Troops Exhibits, Military Development Exhibit, Large Equipment Exhibit, and the Outdoor Exhibit. The Hogukchumo Exhibit honors the spirit of those who perished fighting on the battlefield. Visitors can learn all about Korea’s war history by visiting the War History Exhibit, June 25 War Exhibit, Overseas Dispatched Troops Exhibits, and the Military Development Exhibit, as well as witness how the Korean military developed over the years. Different kinds of weapons and military equipment are exhibited as well, inside and outside the building.

Reference: visitkorea.or.kr

I can say that this place is my favorite place I’ve visited in South Korea. I recommend if you come to South Korea, this place is a must!

N Seoul Tower or Namsan Tower is one of the most popular tourist spot in Korea. Luckily, a guide also took us there too. In my opinion and experience, Namsan Tower is a place for couples! Why? Well the first one, this place is very romantic, especially that “Locks of Love" believe me one day I will visit here again with my boyfriend heheh. Then, there are many restaurants which also romantic too. One that I would like to recommend is revolving restaurant. This is amazing, not only delicious food from Michelin star chef but also views of Seoul! Highly recommended J

When I went to N TOWER 3: Digital Observatory, It is where you can enjoy 360-degree view of Seoul. Unfortunately, it was snowing outside so I could not see the scenery clearly. Plus, thing that I like here in this observatory is along mirrors, they also provide some tourist information in South Korea! And other towers around the world.

Next, we went to Ginseng Museum. I’m not sure if I can call in a museum or not because this place tend to sell ginsengs than giving information about it. There is the most expensive ginseng here which cost about 1000000$ hmm I was wondering how will buy this one? I had a chance to buy ginseng tea and snacks for my parents. I though they will love it because it is really good for health.

The tour was finally finished. I think that today is good because I can learn so many things about South Korea especially history which I interested in. but if you asked me is it worth with 100$ or not? Well believe me traveling by yourself will cost about 50$ so the choice is yours, choose it wisely J

I told a guide to drop me at Seoul City Hall because I found that the City hall building looks amazing and according to my maps.me application, the capital city of South Korea is here so I need to walk and conquer it! When I arrived at Seoul City Hall, I unintentionally found Deoksugung Palace. This palace located in front of the Seoul City so I will not miss a chance to explore it. Then it stated to snow harder so I need a warm place to stay and I found Seoul Metropolitan Library. I love library and this is the national library in South Korea. I cannot explain how happy I am when I found this place J I read some books which written down in Korean and the library was crowded. This library is very clean and systematic. I wish I could spend more time here but my time is running out so I need to walk out and explore other places!

 I had an appointed with P’Pink; one Thai girl I found here, at Hongkik Univ. Station because we will have BBQ there, yummy! So I decided to take a subway and went to Sinchon Station. Why Sinchon Station? First of all there is no subway directly to Hongkik Univ. Station and I’m too lazy to change it so I went to this one instead and walked for 3 stations. Another reason is I want to see everything, I want to know what people live here, and that’s why I decided to walk for 4 km to Hongkik Univ. Station and I can say here that I’m really proud of myself that I did it!

P’Pink and I hung out together in Hongdae for 4 hours and I was so happy to be with her. It was a perfect time for me to buy some souvenirs for my family and friends in Thailand and Hongdae seemed like a perfect place I can literally find everything that I want.  We took a subway back to Daehwa together at 11.00 pm. What a long day!